ประวัติและพัฒนาการของบริษัท
ประวัติและพัฒนาการของบริษัท
กลุ่มบริษัทเอเชี่ยน เป็นกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจผลิตอาหารจำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วโลกมานานกว่า 40 ปี เริ่มจากการเป็นธุรกิจของครอบครัวที่ประกอบกิจการค้าส่งผลิตภัณฑ์อาหารทะเลให้กับภัตตาคารและห้องเย็นต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2507 บริษัทฯ ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการขยายกิจการและพัฒนาบริษัท จนเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET : Stock Exchange of Thailand) ในปี พ.ศ. 2537 ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ “บริษัท ห้องเย็นเอเชี่ยนซีฟู้ด จำกัด (มหาชน)” ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น “บริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” ในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ (Symbol) ASIAN
กลุ่มบริษัทเอเชี่ยน เติบโตและขยายธุรกิจมาจนถึงปัจจุบัน มีธุรกิจใน 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็ง กลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง กลุ่มธุรกิจอาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึกและ กลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ โดยริเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของตนเองเริ่มต้นจากกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง และวางแผนขยายกลุ่มธุรกิจแบรนด์ในกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ต่อไป ปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 814,087,559 บาท ด้วยยอดขายของกลุ่มบริษัทมากกว่า 9 พันล้านบาทต่อปี และมีพนักงานมากกว่า 5,000 คน
กลุ่มบริษัทเอเชี่ยนมุ่งมั่นพัฒนา และเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบในทุกกระบวนการ ใช้ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ และมุ่งพัฒนาประสิทธิภาพ เพื่อตอบสนองลูกค้าของกลุ่มบริษัทได้อย่างดีที่สุด เพื่อให้สมดังคำขวัญที่ว่า เรา “ใช่” สำหรับคุณ
ประวัติและพัฒนาการของบริษัท
พัฒนาการสำคัญ
เริ่มเข้าสู่ธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็ง
• ก่อตั้ง บจก.ห้องเย็นเอเชี่ยนซีฟู้ด (สุราษฎร์ธานี) เพื่อขยายธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็ง
• เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
• ก่อตั้ง บจก.เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (AAI) ขยายธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจทูน่า
• ซื้อกิจการผลิตอาหารกุ้งเปลี่ยนชื่อเป็น บจก. เอเชี่ยน ฟีด
• ก่อตั้ง บจก. เอชี่ยน ฟู้ด เพื่อทำธุรกิจจัดจำหน่ายภายในประเทศ
• เกิดวิกฤต EMS ในประเทศ
• บจก. เอเชี่ยน ฟีดลงทุนในเครื่อง Extruder เพื่อเข้าสู่ธุรกิจอาหารปลาหลังเกิดวิกฤต EMS ในประเทศ
• AAI เริ่มปรับตัวเข้าสู่ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงแบบพรีเมี่ยม
• ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงโตเพิ่มขึ้น 4 เท่า
• บจก. เอเชี่ยน ฟีด กลับมาทำกำไร
• ลงทุนในระบบ ERP
• กำหนดมาตรฐานการจ้างงาน และการหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน
• พัฒนาฐานข้อมูลสารอาหารสำหรับอาหารสัตว์เลี้ยง และอาหารสัตว์น้ำ
• กำหนดแผนกลยุทธ์ “Ambition 2020”
• ขยายกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง
• ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารสัตว์น้ำเติบโตสูง
• กำหนดกลยุทธ์ “Closer to consumer and efficiency”
• ตั้งบจก.เอเชี่ยน เพ็ทส์ แคร์ คอร์ปอเรชั่น
• ลงทุนใน JV : Asian Group SCS Europe GmbH
• ลงทุนในกิจการร่วม : Inter Petrina Co.,Ltd. และทำตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงแบรนด์ “MARIA”
• ตั้งบริษัท Thaiya Corporation (Shanghai) Co.,Ltd. ในประเทศจีน
• เปิดตัวแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยง Monchou
• ได้รับการจัดอันดับทางเครดิต “BBB-” ด้วย Outlook “Stable” จาก TRIS Rating
• ปรับเป้ายอดขายตามแผนกลยุทธ์ “Ambition 2020”
• ลงทุน 51% ในโรงงานผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเม็ดในประเทศจีน
• หยุดธุรกิจกลุ่ม Frozen Commodity มุ่งตลาด Frozen VAP
• ประกาศกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน “CHEERS!”
• กลุ่มธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็งฟื้นตัวจากการขยายตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า (Value-Added Product)
• ออกมาตรการรับมือกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19
• ทำสถิติกำไรสุทธิสูงสุดจากผลประกอบการดีในทุกกลุ่มธุรกิจ
• เปิดตัวแบรนด์ Hajiko
• ได้รับการจัดอันดับทางเครดิต “BBB-” ด้วย Outlook “Stable” จาก TRIS Rating ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 เนื่องจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในช่วงปี 2563
• ได้รับเลือกให้อยู่ใน ESG Emerging list ของ Thaipat
• เปิดตัวแบรนด์ Monchou Balanced
• ทำสถิติกำไรขั้นต้นสูงสุดในไตรมาสที่ 2 ปี 2564
• ได้รับการจัดอันดับทางเครดิต “BBB” จาก “BBB-” ด้วย Outlook “Stable” จาก TRIS Rating
• เปิดตัวแบรนด์ Pro สำหรับกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงที่เน้นการแข่งขันด้านราคา
• AAI เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
• ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในหุ้นยั่งยืน (THSI) ปี 2565 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นปีที่ 2
• คงอันดับความน่าเชื่อถือ ที่ BBB ด้วย Outlook “Stable” จาก TRIS Rating เป็นปีที่ 2
• จัดตั้งบริษัท เอเชี่ยน เวลเนส เรสซิเดนซ์ จำกัด ลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
• ได้รับรางวัล Best Managed Companies 2023 จาก Deloitte
• คงอันดับทางเครดิต “BBB” ด้วย Outlook “Stable” จาก TRIS Rating เป็นปีที่ 3
• ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ประจำปี 2567 จากสถาบันไทยพัฒน์
• ได้รับรางวัล Best Managed Companies 2024 จาก Deloitte
• ได้รับผลประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (CGR) ระดับ 4 ดาว หรือ “ดีมาก”